โดยทั่วไปเราจำแนกลักษณะของผิวหน้าเป็น 5 ประเภท ดังนี้
1. ผิวปกติ
นับว่าเป็นคนโชคดี เพราะได้รับคำชมแน่นอนว่า ผิวละเอียดอ่อนเป็นยองใย นุ่มเนียนคล้ายผิวเด็ก แต่น่าเสียดายว่าไม่ค่อยพบผิวปกติในผู้ใหญ่ส่วนใหญ่แล้วพบในช่วงอายุก่อนวัยรุ่น ซึ่งยังไม่มีการผลิตฮอร์โมนเพศมากระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ผิวปกติจึงเรียบเนียน รูขุมไม่หยาบและไม่เป็นขุยง่าย เรียกได้ว่า ผิวมีความยืดหยุ่นสูงไม่มีความมันเยิ้มบนใบหน้าและไม่แห้งตึง แม้กระทั่งหลังการล้างหน้าใหม่ ๆ ผิวปกติจึงมักไม่มีปัญหา
2. ผิวแห้ง
สำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง หน้าจะเป็นขุยง่ายและตึงหลังล้างหน้าเสร็จใหม่ ๆ ข้อดีคือ รูขุมขนละเอียด ดูเรียบ ไม่หยาบ ไม่มันเยิ้ม หนำซ้ำจะมีปัญหาเรื่องสิวเสี้ยนและสิวอุดตันน้อยกว่าผิวชนิดอื่น ดูหน้าผ่องสะอาด แต่ข้อเสียสำคัญคือ มักมีริ้วรอยก่อนวัย โดยเฉพาะบริเวณผิวบอบบางเช่น รอบดวงตา
3. ผิวมัน
มักเป็นคนที่มีรูขุมขนโตกว่าปกติ ผิวหน้าจึงดูหยาบ ไม่เรียบสวย นอกจากนี้น้ำมันจะหลั่งออกมามาก เกิดปัญหาสิวหรือสิวเสี้ยนได้ง่าย ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่สิว แต่เป็นลักษณะที่รูขุมขนขยายตัวและมีขนอ่อนแทรกขึ้น เมื่อแทรกหลายเส้นเข้าก็เกิดการรวมตัวของไขมันในบริเวณดังกล่าวจนแข็งเป็นเสี้ยนเล็ก ๆ สีดำ จึงเรียกกันว่าสิวเสี้ยน ซึ่งมักเกิดบริเวณ คาง และรอบปาก ฯลฯ
4. ผิวผสม
โดยทั่วไปมีลักษณะผสม คือ ผิวมันบริเวณทีโซนหรือแถวหน้าผากและจมูก และผิวแห้งบริเวณแก้ม ปัญหาที่เกิดขึ้นกับผิวผสมมักพบตามลักษณะของผิวบริเวณนั้น ๆ แต่ปัญหาหลักคือ ความยุ่งยากในการดูแลรักษาต้องดูแลผิวแต่ละส่วนแตกต่างกัน บริเวณทีโซนต้องดูแลแบบผิวมัน และบริเวณแก้มต้องดูแลแบบผิวแห้ง เป็นต้น
5. ผิวแพ้ง่าย
คงเป็นผิวชนิดที่ไม่ว่าใครก้อไม่อยากมี เพราะนอกจากจะแต่งหน้าไม่สวยแล้ว ยังเสียโฉมได้ง่าย เรื่องของผิวแพ้ง่ายนั้นไม่มีข้อบ่งชัดว่าเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่เกิดอาการคันยิบ ๆ หรือแสบบนผิวหน้า โดยไม่มีรอยของโรคหรือผื่นให้เห็น และมักพบว่าเกิดหลังใช้เครื่องสำอางหรือใช้ยาทาบางชนิด แต่ในรายที่เป็นมากอาจมีผื่นแดง คัน หรือเกิดรอยไหมด้วย ผู้ที่มีผิวหน้าแพ้ง่ายมักผิวแห้งและมีกรรมพันธุ์ของโรคภูมิแพ้ หรือเป็นภูมิแพ้ที่อวัยวะอื่น ๆ อยู่ก่อนแล้ว เช่น ที่จมูก ตา หลอดลม (หอบหืด) บางคนก็มีแนวโน้มจะเป็นโรคผิวหนังอักเสบบริเวณทีโซน หรือ สิวRosacea ซึ่งมีลักษณะผิวหน้าแดง พอถูกกระตุ้นด้วยสารเคมีก็เกิดความระคายเคืองได้ง่าย การแพ้ที่ว่ามีทั้งที่เกิดครั้งแรกหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์และเกิดขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์นั้นต่อเนื่อง แถมเมื่อแพ้ผลิตภัณฑ์ใดในครั้งแรกแล้ว ก็จะพาลแพ้ตัวที่สองและสามตามมา ทั้งที่ไม่เคยแพ้มาก่อน สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์นั้นทุกตัว แล้วไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังใกล้บ้านเป็นการด่วนครับ
ที่มา : แพทย์คลินิคผิวหน้า |